ตอนที่ 2
การนิเทศภายในโรงเรียน
1. ความหมายการนิเทศภายในโรงเรียน
การนิเทศภายในโรงเรียนหมายถึง
การส่งเสริม สนับสนุน
หรือให้ความช่วยเหลือครูในโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จในด้านการปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก
ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือการสร้างเสริมพัฒนาการของผู้เรียนทุกด้าน
ทั้งด้านร่างกาย สังคมอารมณ์ จิตใจและสติปัญญาให้เต็มตามวัยและศักยภาพ
การนิเทศภายในโรงเรียนเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้บริหารสถานศึกษาและครูในโรงเรียนนั้น
ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงแก้ไข พัฒนาการปฏิบัติงานของครูให้มีประสิทธิภาพและส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพนักเรียนและคุณภาพการจัดการศึกษา
1.1
ความจำเป็นของการนิเทศภายในโรงเรียนการนิเทศภายในโรงเรียน มีความจำเป็น ดังนี้
1) มุ่งการปรับปรุงคุณภาพของการจัดการศึกษา
ให้ได้มาตรฐานใกล้เคียงกัน
2) บุคลากรในสถานศึกษา มีข้อมูลสารสนเทศ
และมีความใกล้ชิดกับปัญหามากที่สุด
3) บรรยากาศในการนิเทศมีความเป็นกันเองและสามารถดำเนินการนิเทศได้อย่างต่อเนื่อง
1.2 องค์ประกอบของการนิเทศภายในโรงเรียน
1) มีระบบข้อมูลและสารสนเทศ
เพื่อใช้ในการวางแผนนิเทศภายในโรงเรียน
2) มีระบบการการนิเทศอย่างมียุทธศาสตร์
3)
มีระบบการจัดการที่เน้นการพัฒนาครูและนักเรียน
4) มีระบบการติดตาม
ประเมินผลที่เน้นผลงานครู
5) มีระบบการเผยแพร่และขยายผล
1.3 หลักการนิเทศภายในโรงเรียน
1) การดำเนินการนิเทศ จะต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ตามขั้นตอนกระบวนการที่นิเทศภายในโรงเรียน
2) บุคลากรที่เป็นหลักสำคัญในการดำเนินการพัฒนาระบบนิเทศภายในโรงเรียน
ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา
3) การนิเทศภายในโรงเรียน
จะต้องสอดคล้องกับความต้องการและความจำเป็นในการ
พัฒนาครูและนักเรียน
พัฒนาครูและนักเรียน
4) ยุทธศาสตร์การนิเทศภายในโรงเรียน
1 สร้างภาพปลายทางให้ชัดเจน(เป้าหมาย)
ภาพปลายทาง
หมายถึง
สภาพความสำเร็จที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา ซึ่งควรกำหนดให้ชัดเจนและครูทุกคนมองเห็นสภาพความสำเร็จให้ตรงกัน
มีความเข้าใจตรงกัน เพื่อที่จะได้ร่วมมือกันพัฒนาให้ไปสู่ความสำเร็จที่กำหนดนั้น
2 สร้างภาพงานที่ชัดเจนตลอดแนว(แนวดำเนินการ)
ภาพงาน
หมายถึงการกำหนดภาระงานที่ต้องวางแผนการดำเนินการให้มุ่งสู่สภาพความสำเร็จที่กำหนดไว้
จะต้องพัฒนาใครในเรื่องใดและพัฒนาอย่างไร
2.
กิจกรรมการนิเทศภายในโรงเรียน
กิจกรรมนิเทศภายในโรงเรียน มีหลากหลายวิธีให้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหา
ความต้องการและจำเป็นในการพัฒนาของบุคลากรในสถานศึกษา
ซึ่งมีรายละเอียดของกิจกรรมนิเทศ ดังนี้
การให้คำปรึกษาแนะนำ
1)
ความหมาย
การให้คำปรึกษาแนะนำ
เป็นการพบปะกันระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศซึ่งอาจกระทำได้หลายวิธี
ในที่นี้ใช้เทคนิคการนิเทศแบบ โค้ชชิ่ง (Coaching Techniques) ซึ่งเป็นวิฝีการพัฒนาบุคลากรอย่างมีแบบแผน
โดยกระทำ ณ จุดปฏิบัติงาน
2) วัตถุประสงค์
เพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานก้าวไปถึงจุดหมายปลายทางได้
เช่น ความสามารถที่จะรับผิดชอบงานในหน้าที่สูงขึ้น
หรือเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
3) วิธีการให้คำปรึกษาแนะนำ
การให้คำปรึกษาแนะนำมี 2 วิธี คือ
วิธีที่ 1
การให้คำปรึกษาแบบไม่เป็นทางการ
เป็นการให้คำปรึกษาแนะนำ โดยใช้เวลาว่างพูดคุยกัน
เช่น ตอนรับประทานอาหารกลางวัน เป็นต้น
วิธีนี้ผู้นิเทศสามารถให้ความช่วยเหลือผู้รับการนิเทศได้ 3 ลักษณะ คือ
1.1 บอกวิธีการแก้ปัญหาโดยตรง
1.2 เสนอข้อมูลและให้โอกาสผู้รับการนิเทศวิเคราะห์ปัญหาเอง
1.3
แบบผสมผสาน ทั้งลักษณะที่ 1
และ 2
ขั้นตอนการนิเทศ
1) รับรู้ปัญหา
2) วิเคราะห์ปัญหา
3) แก้ปัญหา
โดยเลือกวิธีแก้ปัญหาลักษณะใดลักษณะหนึ่ง
วิธีที่ 2
การให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการ
การให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการใช้ขั้นตอนการนิเทศแบบโคชชิ่ง
เขียนเป็นสัญลักษณ์ CQCD
( C- Compliment ชมเชย C- Question สอบถาม C-Correct แก้ไข D – Demonstrate สาธิต)
การนิเทศแบบการศึกษาดูงาน
ความหมาย
การศึกษาดูงานหมายถึง
การพาบุคลากรของโรงเรียนไปศึกษาค้นคว้าและเพิ่มพูนประสบการณ์ในสถานที่ต่าง ๆ
วัตถุประสงค์
เพื่อให้บุคลากรในสถานศึกษา
ได้พัฒนาตนและพัฒนางานให้มีคุณภาพ
ขั้นตอนการนิเทศแบบศึกษาดูงาน
การนิเทศแบบศึกษาดูงาน มีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้
1 เลือกสถานที่ศึกษาดูงานที่ตรงกับปัญหาและความต้องการ
2
กำหนดวัตถุประสงค์ของการศึกษาดูงาน
3 วางแผน ประสานงานกับสถานที่ที่จะไปดูงาน
4
แจ้งหน่วยงานที่ไปศึกษาดูงาน บรรยายสรุปการดำเนินงานให้ฟัง
5
ควรใช้เวลาในการศึกษาดูงานให้นานพอสมควร
6 หลังจากศึกษาดูงานแล้ว ควรกลับไปสรุปแนวคิดและวางแผนปรับปรุงงานต่อไป
การนิเทศแบบการประชุมนิเทศ
ความหมาย
การประชุมนิเทศหมายถึงการให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้นิเทศเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นโดยผู้นิเทศเป็นผู้ศึกษาหาแนวทางในการแก้ปัญหา
แล้วนำมาแนะนำแก่ผู้รับการนิเทศ
หรือผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศศึกษาและหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงแก้ไขปัญหานั้น
ๆ
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้รับการนิเทศ
ได้แนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและนำไปปรับปรุงแก้ไขอย่างมีคุณภาพ
ขั้นที่ 1 ขั้นเริ่มต้น
ขั้นเริ่มต้นของการนิเทศแบบประชุมนิเทศ
มีขั้นตอนดังนี้
1.1 ผู้รับการนิเทศรับทราบปัญหาจากผู้รับการนิเทศ
แล้วสนทนาสอบถามถึงเรื่องราวที่เป็นปัญหานั้น ๆ
1. 2 ผู้นิเทศศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขจากเอกสาร
ตำรา หรือจากประสบการณ์ หรือผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศศึกษาปัญหาร่วมกัน
ขั้นที่ 2 ขั้นอภิปรายและแสดงความคิดเห็น
ขั้นอภิปรายและแสดงความคิดเห็น
มีขั้นตอน ดังนี้
2.1 ผู้นิเทศนำอภิปรายถึงปัญหาของผู้รับการนิเทศ
2.2 ผู้รับการนิเทศร่วมอภิปรายและแสดงความคิดเห็น
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป
ขั้นสรุป มีขั้นตอนดังนี้
ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ
ร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการแก้ปัญหา
และผู้รับการนิเทศตัดสินใจแก้ปัญหาแก่ผู้รับการนิเทศ
หรืออาจร่วมกันตัดสินใจทั้งผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศเพื่อนำไปดำเนินการต่อไป
การนิเทศแบบสนทนาทางวิชาการ
ความหมาย
การสนทนาทางวิชาการ หมายถึง
การประชุมครูหรือกลุ่มผู้สนใจเรื่องราวข่าวสารเดียวกัน
โดยกำหนดให้ผู้นำสนทนาคนหนึ่ง นำสนทนาในเรื่องที่กลุ่มสนใจ
วัตถุประสงค์
1 เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจแนวทางการปฏิบัติงาน
เทคนิค วิธีการแก่คณะครูในโรงเรียน
2 เพื่อพัฒนาบุคลากรในโรงเรียน
รายละเอียดขั้นตอนการนิเทศแบบสนทนาทางวิชาการ
ขั้นที่ 1 ศึกษาปัญหา
ขั้นศึกษาปัญหามีวิธีการ คือ
สำรวจปัญหา ความต้องการในเรื่องราวที่มีความสนใจร่วมกันหรือเป็นปัญหาร่วมกัน เช่น
เรื่องการสอนภาษาไทยแบบบูรณาการ เรื่องการจัดการเรียนรู้ทักษะกระบวนการคิด เป็นต้น
แล้วลำดับ เรื่องที่ใช้สนทนาทางวิชาการตามความสำคัญ ความจำเป็นและความเหมาะสม
ขั้นที่ 2 เลือกผู้นำสนทนาทางวิชาการ
ขั้นการเลือกผู้นำทางวิชาการ
มีวิธีการ ดังนี้
2.1 เลือกบุคคลใดบุคคลหนึ่งในโรงเรียน
ที่เห็นว่ามีความสามารถเป็นผู้นำสนทนาทางวิชาการได้
โดยผู้นำจะต้องเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องี่จะสนทนาได้อย่างลึกซึ้งกว่าผู้อื่น
2.2 เลือกบุคคลภายนอก หากเห็นว่า
เรื่องที่จะสนทนานั้นค่อนข้างยากคณะครูในโรงเรียนยังไม่มีความรู้ความเข้าใจและความชำนาญเพียงพอ
2.3 ผู้นำทางวิชาการ ควรหมุนเวียนกันไป
ไม่ควรเป็นผู้เดียวซ้ำตลอดปี
2.4 ประสานงานกับผู้นำสนทนาทางวิชาการ
ทั้งในหรือนอกโรงเรียนโดยแจ้งวัตถุประสงค์ให้เข้าใจตรงกัน
ขั้นที่ 3 ปฏิบัติการ
ขั้นปฏิบัติการ มีขั้นตอน ดังนี้
3.1 กำหนดการสนทนาทางวิชาการในช่วงหลังรับประทานอาหารกลางวัน
หรือช่วงว่างตอนใดตอนหนึ่งที่เห็นว่าเหมาะสม
โดยอาจกำหนดเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนตามความต้องการและทำปฏิทินไว้ให้ชัดเจน
3.2 กำหนดเวลาสนทนาครั้งละ
30 - 45 นาที
ขั้นที่ 4 การประเมินผล
ขั้นการประเมินผล มีขั้นตอน ดังนี้
4.1 สังเกต สอบถามและบันทึก ความสนใจและความเข้าใจของผู้ร่วมสนทนาทางวิชาการ
แล้วนำมาเป็นข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์ในการจัดดำเนินการต่อไป
4.2 สังเกตการพัฒนาตนเองและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู
การนิเทศแบบเยี่ยมชั้นเรียน
ความหมาย
การเยี่ยมชั้นเรียนหมายถึง
การที่ผู้นิเทศไปพบและสังเกตการทำงานของครูในชั้นเรียน
เพื่อร่วมกันพัฒนาการทำงานให้มีคุณภาพ
วัตถุประสงค์
1
เพื่อสำรวจความต้องการของครู
2
เพื่อศึกษาปัญหาของครูในสถานศึกษา
3
เพื่อประเมินผลการสอนของครู
4
เพื่อกระตุ้นให้ครูปรับปรุงการจัดการเรียนรู้
5
เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ครู
รายละเอียดขั้นตอนการนิเทศแบบเยี่ยมชั้นเรียน
ขั้นที่ 1
สร้างข้อตกลงในการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
การสร้างข้อตกลงในการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
มีขั้นตอน ดังนี้
1 พบปะสนทนา
สร้างความคุ้นเคยและสร้างเจตคติที่ดีในการนิเทศแก่ ครู
2 วางแผนการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
ร่วมกับครูในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
2.1 กำหนดการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
2.2 กำหนดจุดมุ่งหมายในการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
2.3 กำหนดที่จะนิเทศตามความต้องการ/จำเป็น ดังนี้
1)การจัดทำเอกสารและงานธุรการประจำห้องเรียน
2)การจัดห้องเรียนและบรรยากาศในห้องเรียน
3)การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ฯลฯ
2.4 กำหนดวิธีการนิเทศ
ดังนี้
1)
สำรวจปัญหาและความต้องการของครู
2) สอบถามการปฏิบัติงานของครู
3) ให้คำปรึกษาแนะนำ
4) สังเกตการสอน
ฯลฯ
ขั้นที่ 2
ปฏิบัติการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
ผู้นิเทศปฏิบัติการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียนตามข้อตกลงที่กำหนดร่วมกันกับครู
ดังนี้
1 เข้านิเทศเยี่ยมชั้นเรียนตรงตามเวลาที่กำหนด
2 ให้ความเป็นกันเอง
เพื่อสร้างเจตคติที่ดีแก่ครู
ขั้นที่ 3
วิเคราะห์ผลการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
ขั้นวิเคราะห์ผลการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
มีขั้นตอน ดังนี้
1 วิเคราะห์ผลการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียนร่วมกับครู
2 สรุปผลการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
3
ให้คำปรึกษาแนะนำ
ขั้นที่ 4
ปรับปรงการทำงาน
ครูนำผลการนิเทศเยี่ยมชั้นเรียน
มาปรับปรุงแก้ไข
จัดทำเป็นรูปเล่มจะได้สะดวกในการศึกษาครับ
ตอบลบ